วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ทะเลหมอก 10 แห่งในเมืองไทย ที่ต้องไปดูสักครั้งในชีวิต

ทะเลหมอก 10 แห่งในเมืองไทย ที่ต้องไปดูสักครั้งในชีวิต

ทะเลหมอก 10 แห่งในเมืองไทย ที่ต้องไปดูสักครั้งในชีวิต

ช่วงหน้าหนาวนี้ ใครที่วางแผนจะเคลื่อนที่เที่ยว ทะเลหมอกสวยๆ พร้อมกับบรรยากาศ สบายๆ ลองทำมาดู 10 สถานที่ ท่องเที่ยวหน้าหนาว สิ้นปีนี้ ซึ่งขอบอกเลยว่า ทั้ง 10 สถานที่นี้ น่าไปเที่ยว และถ่ายรูปมากๆ จะสวยแค่ไหนเราลองไปชมกันเลยดีกว่า

 

1. ภูชี้ฟ้า

ทะเลหมอก ภูชี้ฟ้า

ทะเลหมอก ภูชี้ฟ้า

ทะเลหมอก ภูชี้ฟ้า มักยังไม่ตายจุดหมายต้นๆ ที่ทางหลายคนนึกถึง โดยภูชี้ฟ้าเป็นหน้าผายื่นออกเคลื่อนเหนือ ทะเลหมอก ในตอนเช้าของฤดูฝนและฤดูหนาวหมอกจะปกคลุมหุบเขาด้านล่าง ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องตื่นเช้าเพราะว่าเดินขึ้นภู รอชมพระอาทิตย์รุ่ง

สถานที่ตั้ง: บ้านร่มฟ้าไทย ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย

2. ดอยอ่างขาง

ทะเลหมอก ดอยอ่างขาง

ทะเลหมอก ดอยอ่างขางด้วยความที่ว่า ดอยอ่างขาง กอบด้วยภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาทำให้ที่นี้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูหนาว ตอนเช้าจะเกิดทะเลหมอกสีขาวสะอาดลอยระเรื่อยๆ ไปกับแปลงผักเมืองหนาว

สถานที่ตั้ง: ดอยอ่างขาง บ้านคุ้ม ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

3. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

สถานที่นี้ขึ้นชื่อว่าเป็น ทะเลหมอก ที่สวยงาม นักท่องเที่ยวนิยมกางเต็นท์บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหรือดอยกิ่วลม และสามารถชมทะเลหมอกในตอนเช้า นอกจากทะเลหมอกที่หนาแน่นแล้วยังมองเห็นดอยเชียงดาวเป็นฉากหลังด้วย

สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

4. อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

ครั้นเมื่อแสงทองฉาบบน ทะเลหมอก มีให้เห็นที่ขุนสถาน เช้าใน ฤดูหนาว แนะนำให้รีบจับจองพื้นที่กลางเต็นท์ บริเวณที่ทำการซึ่งตั้งอยู่บนดอยแม่จอก สูงประมาณ 1,469 ม. จากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นทะเลหมอกแบบพานอรามา

สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน

5. ม่อนกิ่วลม

เพื่อสถานที่นี้ ยังไม่ตายจุดชม ทะเลหมอก ที่งามเลิศงามแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแม่เมย มีความหนาแน่นของใช้ทะเลหมอกที่ปกคลุมเทือกเขาย้อมด้วยเสียงทองตอนเช้าของพระอาทิตย์ โดยเป็นทิวภาพที่น่าประทับใจมากๆ

สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติแม่เมย อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก

6. ม่อนพูนสุดา

ม่อนพูนสุดา ก็สดอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาดู ทะเลหมอก พร้อมด้วยมองเห็นทิวทิศน์ได้ระยะไกลและกว้าง หลายคน จึงยอมตื่นเช้าเพื่อดูทะลหมอกที่นี่เช่นกัน

สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติแม่เมย อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก

7. ภูหัวฮ่อม

ภูหัวฮ่อม นั้นกอบด้วยอากาศเย็นสบายตลอดศก ในช่วงฤดูหนาว ก็จะมีแม่น้ำหมอกปกคลุมเทือกเขาสลับซับซ้อนหยาบล่าง กั้นพรมแดนไทย - ลาวให้ชม นอกจากนี้ไม่ไกลกันมีแปลงสตรอว์เบอร์รี่พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์จากแมคคาเดเมียให้ชิมเช่นกัน

สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย

8. ภูทับเบิก

สำหรับ ภูทับเบิก ข้างนอกจากจะมีไร่กะหล่ำปลีสุดสายตาแล้ว เผื่อว่าหากมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาวจะมีทะเลหมอกให้ชม บางครั้งอาจพัดปกคลุมบนภู ทำให้นักท่องเที่ยวอาจจะสัมผัสสายเมฆหมอกได้

สถานที่ตั้ง: ภูทับเบิก ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์


9. ภูทอก

ภูทอก ถ้าหากใครได้เจียรเที่ยว เมืองเชียงคานในฤดูหนาว อย่าพลาดขึ้นไปชมทะเลหมอกบนภูทอก ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน ด้วยตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำโขง มีความชื้นสูง ในตอนเช้าจึงเกิดทะเลหมอกขั้นหนาแน่นพร้อมกับกินเวลามากหลายชั่วโมง

สถานที่ตั้ง: ภูทอก ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

10. ดอยเสมอดาว

ถ้าหากปริปากถึง ดอยเสมอดาว ยามค่ำคืนนั่งนับดาว กลุ่มตอนเช้าตรู่ก็ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น หากใครอยากเห็นทะเลหมอก ในมุมสูงแนะนำให้ขึ้นไปชมบนผาหัวสิงห์ ตั้งอยู่บริเวณจุดกางเต็นท์

สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาว เพื่อแวะจากไปชมทะเลหมอก สวยๆ นั่งชมดาวณยามดึก อาบแสงพระอาทิตย์ยามเช้า จิบกาแฟเบาๆ ถ่ายรูปไปกับทะเลหมอก เพื่อเก็บเป็นความทรงจำดีๆ หวังว่าหลายๆ ท่านคงมีสถานที่เที่ยวหน้าหนาวกันแล้วนะครับ ก็ขอให้ทุกท่านเดินทางด้วยความปลอดภัย และที่สำคัญเมาไม่ขับนะครับ ^_^

อ่านเพิ่มเติมที่ http://travel.sanook.com/1262462/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

แชร์ป่วน! ระบบเตือนภัยเฟซบุ๊กดังลั่น แจ้งระเบิดในกรุงเทพฯ

แชร์ป่วน! ระบบเตือนภัยเฟซบุ๊กดังลั่น แจ้งระเบิดในกรุงเทพฯ

แชร์ป่วน! ระบบเตือนภัยเฟซบุ๊กดังลั่น แจ้งระเบิดในกรุงเทพฯ

ปั่นป่วนไปทั่วเมือง Facebook Safety Check ระบบแจ้งเตือนภัยดัง แจ้งกรุงเทพฯ มีระเบิด ผู้คนแห่กดแชร์ตามๆ กัน ยืนยันไม่มีเหตุใดเกิดขึ้น

(27 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ที่ผ่านมา ไทม์ไลน์เฟซบุ๊กเต็มไปด้วยข้อความเตือนภัยเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ถูกแชร์ไปทั่ว โดยพบว่ามาจากระบบ Facebook Safety Check ซึ่งเป็นระบบแจ้งเตือนภัยแบบเรียลไทม์ แต่จากการตรวจสอบไม่พบเหตุระเบิดใดเกิดขึ้น

ขณะที่ผู้มานพในโลกโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์พร้อมทั้งช่วยตรวจสอบกรณีที่เกิด ขึ้น เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากสาเหตุ Facebook Safety Check ถูกรบกวนหรือขัดข้อง ทำให้เกิดการแจ้งเตือนขึ้นมา ทั้งนี้ยังมีตั้งข้อสังเกตว่า เว็บไซต์ข่าว Bangkok Informer ได้นำข่าวเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อเดือนสิงหาม 2558 มาโพสต์แชร์ซ้ำอีกครั้งในวันนี้ ทำได้จะทำให้เกิดความผิดพลาดในระบบข่าวออนไลน์


นอกจากนี้ ผู้คนในโลกออนไลน์บางคนต่างได้รับแจ้งเตือนภัยจากผู้ใช้คนอื่นๆ ในลักษณะส่งต่อกันเรื่อยๆ เพื่อใช้สำหรับเตือนภัยเหตุร้าย ขณะนี้บางส่วนก็ตั้งข้อสงสัยว่า การปล่อยข่าวลือแบบนี้จะเกี่ยวข้องกับการแฮ็กระบบ เกี่ยวกับสร้างสถานการณ์ใดๆ หรือไม่

ขณะที่ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความที่เฟซบุ๊กว่า "อันนี้เฟซบุ้คมั่วนะครับ ไม่ได้มีเหตุระเบิดอะไร ไม่ต้องโดนหลอกให้กดรายงานกายว่าปลอดภัยกันนะครับ มันมั่วมาจากข่าวระเบิดราชประสงค์ปีก่อน มีเพจคลิ้กเบจเอามาโพสต์ซ้ำ เฟซบุ๊กเลยโดนหลอก"

สำหรับ Facebook Safety Check เป็นระบบการแจ้งเตือนเหตุร้าย เช่น ภัยก่อการร้าย หรือ ภัยธรรมชาติ แห่งเกิดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุนั้น สามารถยืนยันตัวว่าปลอดภัย ระบบนี้เคยใช้เตือนอย่างแพร่หลายเป็นเหตุก่อการร้ายในประเทศออสเตรเลีย

ข้อมูลจาก http://news.sanook.com/2143502/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

แผ่นดินไหว 5.9 กลางเกาะญี่ปุ่น รับรู้ถึงกรุงโตเกียว คาดเสียหาย

แผ่นดินไหว 5.9 กลางเกาะญี่ปุ่น รับรู้ถึงกรุงโตเกียว คาดเสียหาย

แผ่นดินไหว 5.9 กลางเกาะญี่ปุ่น รับรู้ถึงกรุงโตเกียว คาดเสียหาย

เกิดเหตุแผ่นดินไหวบนบก ขนาด 5.9 ทางภาคกลางของญี่ปุ่น แรงสั่นสะเทือนรับรู้ถึงกรุงโตเกียว คาดมีชี้แจงความเสียหาย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวบนบานศาลกล่าวบก ระดับความรุนแรงปานกลาง ทางภาคกลางของประเทศญี่ปุ่น ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว แรงสั่นไหวสามารถรับรู้ถึงเมืองหลวงและหลายพื้นที่โดยรอบ คาดว่าน่าจะมีความเสียหายเกิดขึ้น

สำนักแผ่นดินไหวสหรัฐอเมริกา ได้รายงานว่า เมื่อเวลา 19.38 น. ไล่ตามเวลาแห่งประเทศไทย หรือเวลา 21.38 น. ตามเวลาในประเทศญี่ปุ่น เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ตามมาตราแมกนิจูด บริเวณหุบเขาในจังหวัดอิบารากิ ใกล้กับเมืองฮานะวะ แผ่นดินไหวครั้งนี้เกินขึ้นจากระดับความลึกราวๆ 10 กิโลเมตรจากพื้นดิน

ตามรายงานระบุว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่ใกล้กับหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง นามว่า "หมู่บ้านฟุนามิ" ในจังหวัดอิบารากิ เบื้องต้นแรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ถึงกรุงโตเกียว ไปจนถึงจังหวัดยะมะงะตะ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย แต่มีการคาดการณ์บริเวณใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว น่าจะมีความเสียหายระดับหนึ่ง เนื่องจากความรุนแรงเกิน 6 มาตราชินโดะของญี่ปุ่น

ขอบคุณข้อมูลจาก http://news.sanook.com/2144006/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

รวมจุดเสี่ยง เส้นทางเลี่ยงรถติดช่วงปีใหม่ 2560

102

เส้นทางเลี่ยงรถติดปีใหม่ 2560

      แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคเหนือ

    

เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯจากไป รังสิต (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – จ.อยุธยา – จ.อ่างทอง – จ.สิงห์บุรี (ทางหลวงหมายเลข 32 หรือ ถนนสายเอเชีย) – อ.มโนรมย์ (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.นนทบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณฯ) – จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 สุพรรณฯ – ชัยนาท) – จ.ชัยนาท (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป จ.นครปฐม (ทางหลวงหมายเลข 346 นครชัยศรี – กำแพงแสน) – จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 321 กำแพงแสน – ด่านช้าง) – จ.อุทัยธานี (ทางหลวงหมายเลข 333 ด่านช้าง – บ้านไร่ – อ.เมืองอุทัยธานี) เคลื่อนนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางพื้นดิน 4 จากกรุงเทพฯไป รังสิต– อ.วังน้อย – จ.สระบุรี – จ.ลพบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – อ.ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) ทิ้งนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก

 

 

       แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคอีสาน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

     เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – อ.ด่านขุนทด (ทางหลวงหมายเลข 2148) – อ.ขามทะเลสอ (ทางหลวงหมายเลข 2068) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

 

     เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – บ.บัวชุม,บ.หนองสอง (ทางหลวงหมายเลข 2234,2247) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2422) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – จ.สระบุรี –  อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 หรือ ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯไป จ.นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) – อ.บ้านนา (ทางหลวงหมายเลข 3051, 33) – อ.แก่งคอย (ทางหลวงหมายเลข 3222) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2 หรือ ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 5 จากกรุงเทพฯไป จ.ฉะเชิงเทรา (ทางหลวงหมายเลข 314) – อ.พนมสารคาม – อ.กบินทร์บุรี – อ.วังน้ำเขียว – อ.ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

 

     เพื่อเป็นการระบายปริมาณรถหนาแน่นบริเวณต่างระดับบางปะอิน ซึ่งเป็นเส้นทางไปภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถใช้เส้นทางเหล่านี้ได้

     1.จากถนนพหลโยธินประมาณ กม.40 500 เลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวงหมายเลข 3214 ตรงไปบรรจบ    ทางหลวงหมายเลข 347 จากนั้นสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 347 จนไปถึงต่างระดับบางปะหันได้   ซึ่งเส้นทางดังกล่าวสามารถเลี่ยงการจราจรที่ต่างระดับบางปะอินและที่จ.อยุธยาได้

     2. จากทางหลวงพิเศษหมายเลข9 (ถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันออก) สามารถเลี่ยงปริมาณจราจรหนาแน่นบริเวณต่างระดับบางปะอินได้โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1  จากนั้นตรงไปประมาณ กม.65 ให้เลี้ยวซ้าย ใช้ทางหลวงหมายเลข 309 ตรงไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 32 

 

100

       แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคใต้

       เส้นทางที่ 9 ใช้ถนนธนบุรี - ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35 : พระราม 2) เข้าถนน เพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เดินทางสู่ ภาคใต้

       เส้นทางที่ 10 ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม, โพธาราม, ราชบุรี อ.ปากท่อ เพื่อเข้าสู่ ภาคใต้

       เส้นทางที่ 11 จากขนส่งสายใต้ใหม่ ใช้ถนนบางกอกน้อย - นครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลข 338) เข้านครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี มุ่งหน้าสู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

       ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก กรมทางหลวง

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://auto.sanook.com/56509/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

“ดาว มยุรี” ยัน สวยวันสวยคืนเพราะสวดมนต์

ใครที่ได้เข้าไปดูอินสตาแกรมของ นักร้องสาวลูกทุ่ง “ดาว มยุรี” @dao_mayuree เป็นต้องตะลึงในความสวยและน่ารักราวกับตุ๊กตาบาร์บี้

วันนี้ (28 ธ.ค.59) ทีมนิวมีเดียพีพีทีวี สัมภาษณ์นักร้องสาวลูกทุ่ง “ดาว มยุรี” แม้ความสวยที่เฉิดฉายออกมาจนทะลุอินสตาแกรม (ไอจี) ที่สาว “ดาว มยุรี” โพสต์ลงไอจีบ่อยๆ และจากการสอบถามถึงความเช้งวับที่ดูผิดตา ได้มารับคำตอบจากนักร้องสาวสวยรายนี้ว่า เป็นเพราะช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีอยู่ 3 เรื่องที่ทำไม่ขาด ได้แก่

1.สวดมนต์บทอาราธนาศีล 5 ก่อนนอนทุกคืนไม่ชินเว้นแม้แต่คืนเดียว แทบสวดมนต์จิตก็ได้รับบุญทำให้สวยจากภายใน รวมถึงการทำบุญเป็นประจำ 2.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ส่วนตัวสาวดาว มยุรี จะออกกำลังกายด้วยการตีแบดมินตัน และวิ่งเบาๆ และ 3.ไม่ดื่มแอลกอฮอล์

ส่วนที่มีการคอมเม้นท์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่าไปอัพหน้ามาใหม่ เหรอไปศัลยกรรมหน้าเพิ่ม เรื่องนี้ “ดาว มยุรี” ยืนยันว่าไม่ได้ไปทำศัลยกรรมหน้าเพิ่มมาแต่อย่างใด สิ่งที่ทำในช่วง 5-6 เดือนนี้นอกจาก 3 ข้อที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ก็มีแค่การร้อยไหมหน้าเท่านั้น

“ยืนยันว่าไม่ได้อัพหน้าเหรอไปเชือดตัดหน้ามาใหม่ ที่สวยได้เพราะ สวดมนต์ ทำบุญ ออกกำลังกาย และไม่ดื่มแอลกอฮอล์” ดาว มยุรี กล่าวทิ้งท้าย

ข้อมูลจาก http://news.sanook.com/2143834/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

10 ของขวัญปีใหม่ ที่ผู้หญิงอยากได้ที่สุด (หนุ่มๆ รู้ไว้ แล้วรีบจัดให้ซะ!)

10 ของขวัญปีใหม่ ที่ผู้หญิงอยากได้ที่สุด (หนุ่มๆ รู้ไว้ แล้วรีบจัดให้ซะ!)

10 ของขวัญปีใหม่ ที่ผู้หญิงอยากได้ที่สุด (หนุ่มๆ รู้ไว้ แล้วรีบจัดให้ซะ!)

ใกล้ถึงเทศกาลแห่งความสุข วันปีใหม่แล้ว หลายๆ คนคงกำลังเตรียมเสาะซื้อของขวัญเพื่อมอบให้คนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือคนรัก เพื่อให้มานพรับประทับใจอยู่กันใช่ไหมคะ

หลงเชื่อเลยว่าหลายคนยังนึกมิออกว่าจะซื้ออะไรให้ถูกใจคนรับดี วันนี้ Sanook! Women มีไอเดียการเลือกของขวัญปีใหม่ ที่ผู้หญิงอยากได้ มากระซิบบอกหนุ่มๆ ค่ะ ผู้หญิงอยากได้อะไรกันบ้างมาซูมเลย

1 "เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือ แอคเซสเซอรี่ต่างๆ" ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา แหวน สร้อยคอ จัดมาเถอะค่ะ พวกนางชอบหมดแน่นอน ด้วยความที่ผู้หญิงชอบแต่งตัวเปลี่ยนแปลงตามแฟชั่นไปเรื่อย สิ่งเหล่านี้คือ ของขวัญที่ดีงามค่ะ แต่ก่อนซื้อหนุ่มๆ ควรดูสไตล์ของสาวๆ ก่อนนะ ไม่ใช่นางชอบแนวหวาน ไปซื้อแนวร็อคให้ ไอ้ที่จะถูกใจ กลับจะกลายเป็นไม่ปลื้มแทนได้นร๊า

 

2 "เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว น้ำหอม" นอกจากการแต่งตัวที่ผู้หญิงชอบแล้ว เรื่องความสวยความงามของร่างกายก็ต้องมาเป็นอันดับต้นๆ ค่ะ ข้อนี้จัดไป รับรองสาวๆ ชอบไม่แพ้กันเลย

3 "Smartphone" ข้อนี้จัดไปสำหรับพ่อบุญทุ่ม ขึ้นปีใหม่แล้ว หากได้โทรศัพท์เครื่องใหม่ รุ่นใหม่กิ๊กๆ นอกจากจะเอาไว้ถ่ายรูปเก๋ๆ รับรองเธอจะหยิบมาแชท มาคุยกับคุณตลอดทั้งวันเลยจ้า

4 "ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อุปกรณ์ออกกำลังกาย" เทรนด์สุขภาพมาแรง หากซื้อสิ่งเหล่านี้ให้ นอกจากผู้หญิงของคุณจะปลื้มปริ่มแล้ว เธอยังจะมีรูปร่างที่เป๊ะเวอร์ ให้คุณมองไม่เบื่อด้วยนะคะ

5 "ของ DIY" เป็นของไม่มีราคา แต่มีคุณค่าทางจิตใจที่สุด อะไรมันจะดีไปกว่า ของที่คุณประดิษฐ์ทำขึ้นมาเองละคะ ตั้งใจทำขนาดนี้ มีชิ้นเดียวในโลกด้วย รับรองสาวๆ ยิ้มไม่หุบแน่นอน

6 "กล้องถ่ายภาพ" คือสิ่งที่ถูกใจผู้หญิงแน่ๆ เพราะเวลานี้ ไม่ว่าจะกิน นอน เที่ยว ขอให้ได้ถ่ายภาพลงโซเชียล อวดเพื่อนๆ ก็ฟินแล้วล่ะ ยิ่งกล้องสมัยนี้ถ่ายสวยเกินจริง ถ่ายปุ๊บลงโซเชียลได้ปั๊บด้วย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงยุคนี้แน่ค่ะ

7 "งานไอเดียแปลกๆ" บางทีการให้ของขวัญที่ซ้ำซากจำเจ คุณผู้หญิงก็อาจจะเบื่อได้ ลองหาของขวัญที่เป็นงานไอเดียแปลกๆ ให้เธอสิคะ นอกจากจะถูกใจแล้ว ยังได้รอยยิ้มกลับมาด้วยนะ

8 "เงิน" หากคิดไม่ออกว่าจะให้ของขวัญอะไร หยิบเงินใส่ซอง(สวยๆ )ให้ไปเลยจ้า ให้เธอไปเลือกซื้อเอง ไม่ถูกใจให้มันรู้ไปสิ

9 "ขอให้แฟนรักสม่ำเสมอ หรือขอให้ใครมารักสักคน" ไม่มีสิ่งของใดจะมีค่าเท่ากับ "ความรัก" แล้วค่ะ เพียงคุณให้ความรักกับคุณผู้หญิงมากๆ แสดงความรักไม่เปลี่ยนแปลงแค่นี้ก็คือของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเธอแล้วค่ะ

10 "ความสุข" เชื่อว่าผู้หญิงทุกคน อยากได้รับความสุข แค่คุณพาไปท่องเที่ยวในที่ๆ เธอชอบ พาไปหาร้านอาหารน่ารักๆ หม่ำกัน หรือ ทำบุญไหว้พระขอพรรับปีใหม่ เพียงเท่านี้ก็สุขใจแล้วค่ะ

หนุ่มๆ รู้แล้ว รีบจัดให้สาวๆ ด่วนๆ เลยค่ะ รับรองแฮปปี้กันทั้งสองฝ่ายเลยแหละ ^^ ปีใหม่นี้ Sanook! Women ขอให้มีแต่ความสุขกันถ้วนหน้าเลยนะคะ

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก http://women.sanook.com/44465/

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับความงาม

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ปัญหาผิวหน้าของสาวๆ ส่วนใหญ่ก็คือ การมีสิวขึ้นหน้า และเมื่อสิวหายไปแล้ว หลังจากมันตกสะเก็ดมันก็มักทิ้งรอยสิวดำๆ เอาไว้ให้สาวๆ เรากลุ้มใจตามเสมอ ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ควรละเลยการรักษารอยสิวให้จางลงโดยเร็ว ว่าแต่จะมีวิธีไหนกันบ้างหรือไม่นะที่จะสามารถรักษารอยสิวให้จางลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังประสบกับปัญหารอยสิว และหากกำลังมองหา วิธีลดเลือนรอยสิวในแบบธรรมชาติ ตามมาดูกับวัตถุดิบเหล่านี้ที่มีสรรพคุณเป็นดั่งยารักษารอยสิวกันสิคะ รับรองค่ะว่ารอยสิวจะต้องจางลงแบบไม่ต้องควักตังค์ซื้อยารักษารอยสิวกันเลย แถมยังทำให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใสตามได้อีกด้วย มาดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

1.น้ำมะนาว

การลดเลือนรอยสิวให้จางลง เราสามารถใช้น้ำมะนาวได้ เป็นวิธีรักษาสิวสูตรธรรมชาติ เพราะน้ำมะนาวมีค่าเป็นกรดโดยจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวได้เป็นอย่างดี และยังทำหน้าที่ในการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ทำให้รอยสิวดำๆ จางลง แต่ก่อนใช้อย่าลืมผสมน้ำมะนาวกับน้ำเปล่าให้กรดของมันเจือจางลงสักเล็กน้อยนะคะ ไม่งั้นอาจจะทำให้ผิวหน้าแสบระคายเคืองเกินไปได้ สำหรับในส่วนของการรักษารอยสิวด้วยน้ำมะนาว ให้แต้มน้ำมะนาวลงไปบนรอยสิวปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงจึงล้างออก

2.เจลว่านหางจระเข้

หน้าร้อนแบบนี้ ผิวสาวมักเผชิญกับปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดดหรือผิวไหม้แดดอยู่เป็นประจำ และเจลว่านหางจระเข้ก็มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมปัญหาผิวดังกล่าวได้ แต่ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ มันยังสามารถช่วยรักษารอยสิวให้จางลงได้ด้วย เพียงนำเนื้อเจลว่านหางจระเข้มาทาลงบนรอยสิวปล่อยไว้ประมาณ 30 นาทีจากนั้นล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำ รอยสิวจางลงแน่นอน

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
 

 

3.มันฝรั่ง

นำมันฝรั่งมาฝานให้เป็นแผ่น จากนั้นนำมาทาลงบนรอยสิว ปล่อยไว้ 30 นาทีแล้วล้างออก ทำเป็นประจำมันฝรั่งจะช่วยรักษารอยสิวให้จางลงได้เช่นกันค่ะ

4.น้ำมันมะกอก

ก่อนใช้น้ำมันมะกอก ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนด้วยน้ำอุ่น จากนั้นจึงนำน้ำมันมะกอกมาทาบนใบหน้าพร้อมกับค่อยๆ นวดผิวหน้าจนทั่ว ปล่อยไว้ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงแล้วจึงล้างหน้าให้สะอาด การใช้น้ำมันมะกอกรักษารอยสิว นอกจากจะช่วยให้รอยสิวจางลงแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและเนียนนุ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

5.แตงกวากับมะเขือเทศ

ให้นำแตงกวาและมะเขือเทศมาปั่นรวมกันจนเป็นเนื้อละเอียด จากนั้นนำมาพอกหน้าไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด มะเขือเทศมีวิตามินเอและซี ในขณะที่แตงกวาเป็นแหล่งของวิตามินบี 1 และบี 2 เมื่อนำสองคุณค่านี้มาผสานรวมกันก็จะยิ่งช่วยลดเลือนรอยสิวให้จางลง และทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสนวลเนียนอย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

6.มะละกอ

ให้นำมะละกอสุก สามารถรักษาสิวได้ โดยการนำมาปั่นจนละเอียด จากนั้นกรองเอาแต่น้ำมาทาลงบนรอยสิว หรืออาจจะทาจนทั่วใบหน้าก็ได้เช่นกัน ปล่อยไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำ คุณสมบัติจากมะละกอสุกจะช่วยกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น และยังช่วยลดเลือนรอยสิวไปพร้อมๆ กันอีกด้วย

ทราบกันไปแล้วนะคะถึงวิธีรักษารอยสิวในแบบธรรมชาติ อย่าลืมหยิบเอาวัตถุดิบใกล้ตัวที่คุณหาง่ายเหล่านี้มาแต้มรอยสิว ไม่นานหรอกค่ะ ผลลัพธ์ที่คุณจะได้ค้นพบจะต้องเกิดกับคุณภายในไม่ช้าแน่นอน

ขอบคุณข้อมุลจาก http://women.sanook.com/blog/72835/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รวมเคล็ดลับเด็ดเรื่องสิว

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เพื่อนนักแสดงเศร้า… “แคร์รี่ ฟิชเชอร์” เจ้าหญิงเลอา Star Wars เสียชีวิตแล้ว

เพื่อนนักแสดงเศร้า… “แคร์รี่ ฟิชเชอร์” เจ้าหญิงเลอา Star Wars เสียชีวิตแล้ว

เพื่อนนักแสดงเศร้า… “แคร์รี่ ฟิชเชอร์” เจ้าหญิงเลอา Star Wars เสียชีวิตแล้ว

วันที่ 28 ธ.ค. 59 – สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แคร์รี ฟิชเชอร์ นักแสดงหญิงสมัญญานามดัง ชาวอเมริกัน ผู้รับบท “เจ้าหญิงเลอา” ในภาพยนตร์มหากาพย์ไซไฟยอดนิยมอย่าง “สตาร์ วอร์ส” เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 60 ปี หลังจากประสบภาวการณ์หัวใจหยุดเต้น

ทั้งนี้ จากข่าวดังกล่าวได้สร้างความโศกเศร้าให้แก่บรรดานักแสดงภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส รวมถึงแฟน ๆ อย่างมาก ซึ่ง มาร์ค ฮามิลล์ หนึ่งในนักแสดงภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส ผู้รับบท ลุค สกายวอล์คเกอร์ ได้ทวีตข้อข้อคดีสั้น ๆ ว่า “ไม่มีคำใดจะเอ่ยออกมาได้”

ขณะที่ แฮริสัน ฟอร์ด อีกหนึ่งนักแสดงชื่อดังพื้นดินรับบาท ฮาน โซโล กล่าวถึง แคร์รี ฟิชเชอร์ ว่า “เธอเป็นบุคคลที่พิเศษและใช้ชีวิตอย่างองอาจ” ส่วน จอร์จ ลูคัส ผู้กำกับชื่อดังที่ให้กำเนิดภาพยนตร์ชุด สตาร์ วอร์ส กล่าวสุนทรพจน์ว่า “แคร์รี ฟิชเชอร์ หมายความว่าคนที่ฉลาด เป็นนักแสดงและนักเขียนที่มีพรสวรรค์ และทุกคนก็รักความมีชีวิตชีวาแห่งตัวเธอ”

โดยเมื่อวันศุกร์ (23 ธ.ค.) ที่ผ่านมา อาการโรคหัวใจสิ่ง แคร์รี ฟิชเชอร์ กำเริบขณะถิ่นเธอกำลังเดินทางจากกรุงลอนดอนของอังกฤษไปยังนครลอสแองเจลิส ของสหรัฐฯ โดยเครื่องบิน ซึ่งเป็นกำลังเดินสายโปรโมตหนังสือเล่มล่าสุดของเธอ ทำให้เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเมื่อเครื่องลงจอด ก่อนที่ต่อมาแม่ของเธอจะกล่าวว่า อาการของเธอทรงตัวแล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://news.sanook.com/2143538/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

ได้เวลาขึ้นเหนือไปเจอลมหนาว กับ10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตรับหน้าหนาว

ได้เวลาขึ้นเหนือไปเจอลมหนาว กับ10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตรับหน้าหนาว

ได้เวลาขึ้นเหนือไปเจอลมหนาว กับ10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตรับหน้าหนาว

เมื่อเช้าได้ยินกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าจ้าง ปีนี้ภาคเหนือจะเจอลมหนาวกลางเดือนตุลาคมนี้แล้ว แถมพกจะเย็นกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนธันวาคม ถึงต้นมกราคม จะเป็นช่วงที่หนาวที่สุดของปี อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วทั้งภาคเฉลี่ยตั้งแต่ 5-19 องศาเซลเซียส เรียกว่าปีนี้ได้หนาวกันสะใจเลยทีเดียว สำหรับเพื่อนๆ ย่านกำลังวางแผนขึ้นเที่ยวไปรับลมหนาวกัน สนุก! ท่องเที่ยว ได้คัดสรร 10 ที่เที่ยวสวยๆ ให้เป็นตัวเลือกสำหรับคนชอบอากาศหนาวแล้ว

1.ภูชี้ฟ้า เมื่อพูดถึงทะเลหมอก ภูชี้ฟ้ามักเป็นจุดหมายต้นๆ สถานที่หลายคนนึกถึง ภูชี้ฟ้าเป็นหน้าผายื่นออกไปเหนือทะเลหมอก ในตอนเช้าของฤดูฝนและฤดูหนาวหมอกจะปกคลุมหุบนกเขาด้านล่าง นักท่องเที่ยวต้องตื่นเช้าด้วยว่าเดินขึ้นภู รอชมพระอาทิตย์ขึ้น

ภูชี้ฟ้าภูชี้ฟ้า

2.ดอยอินทนนท์ ทั้งเป็นยอดดอยที่สูงที่สุดของแดนสยาม 2,565 เมตร ประกอบด้วยสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดหลังสุด

ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์

3.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ที่นี้ขึ้นชื่อทะเลหมอกที่สวยงาม นักท่องเที่ยวนิยมกางเต็นท์บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเหรอดอยกิ่วลม ซึ่งเก่งชมทะเลหมอกในตอนเช้า นอกดำเนินทะเลหมอกที่หนาแน่นแล้วอีกต่างหากมองเห็นดอยเชียงดาวเป็นฉากหลังด้วย

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

4.ดอยแม่อูคอ อยู่ณเขตอำเภอขุนยวม ครอบครองแหล่งของดอกบัวตองที่สวยงามที่สุดในเมืองไทย เวลาที่สวยงามที่สุดของการดูดอกบัวตองนั้น ควรดูในตอนเช้าเมื่อแสงแรกของวันสาดส่อง เพราะสีทองของดอกจะเปล่งประกายเป็นทองมากกว่าเวลาอื่นใด และใกล้ๆ กันก็ยังมีน้ำตกแม่สุรินทร์น้ำตกสูงใหญ่ส่งมอบคุณเที่ยวชมอีกเพราะ

ดอยแม่อูคอ

ดอยแม่อูคอ

5.ปางอุ๋ง เป็นที่ที่สร้างความประทับใจประทานกับเราเป็นอย่างมาก มาริแล้วก็อยากจะมาอีกทุกๆ ปีเลยก็ว่าได้ งดงามทั้งธรรมชาติและบรรยากาศ สวยตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในฤดูหนาวอย่างนี้คุณจะได้ดูสายหมอก หยอกล้อกับสายน้ำท่ามกลางขุนเขาและป่าสน

ปางอุ๋ง

6.ดอยอ่างขาง ด้วยภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาทำให้ที่นี้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูหนาว ตอนเช้าจะเกิดทะเลหมอกสีขาวสะอาดลอยระเรื่อยๆจรกับแปลงผักเมืองหนาว

ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง

7.ดอยเสมอดาว ในยามค่ำคืนนั่งนับดาว ชนิดตอนเช้าตรู่ก็ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น ใครอยากเห็นทะเลหมอกในมุมสูงแนะนำกำนัลขึ้นไปชมบนผาหัวสิงห์ซึ่ง ตั้งอยู่บริเวณจุดกางเต็นท์

ดอยเสมอดาวดอยเสมอดาว

8.ม่อนกิ่วลม ทำเครื่องหมายชมทะเลหมอกเขตสวยงามแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแม่เมย ความหนาแน่นของทะเลหมอกที่ปกคลุมเทือกเขาย้อมด้วยเสียงทองตอนเช้าของพระอาทิตย์ เป็นภาพที่ควรประทับใจ

ม่อนกิ่วลม

ม่อนกิ่วลม

9.ม่อนพูนสุดา เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูทะเลหมอก ด้วยมองเห็นทิวทิศน์ได้ระยะไกลและกว้าง หลายคนจึงยอมตื่นเช้าเพื่อดูทะลหมอกที่นี่

ม่อนพูนสุดาม่อนพูนสุดา

10.อุทยานแห่งชาติขุนสถาน แสงทองฉาบบนทะเลหมอกมีให้เห็นที่ขุนสถาน เช้าในฤดูหนาวแนะนำให้รีบจับบุ๊คพื้นที่กลางเต็นท์ บริเวณที่ทำการซึ่งตั้งอยู่บนดอยแม่จอก สูงประมาณ 1,469 ม. จากระดับน้ำทะเล ทำเป็นมองเห็นทะเลหมอกแบบพานอรามา

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
 
คลิกชมภาพ
อ่านเพิ่มเติมที่ http://travel.sanook.com/1391118/
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

รวม 9 สถานที่..ต้องห้ามพลาด เมื่อได้มาเยือน " ปาย " แม่ฮ่องสอน

รวม 9 สถานที่..ต้องห้ามพลาด เมื่อได้มาเยือน " ปาย " แม่ฮ่องสอน

รวม 9 สถานที่..ต้องห้ามพลาด เมื่อได้มาเยือน " ปาย " แม่ฮ่องสอนต้อนรับสายลมหนาว กับ "9 ที่เที่ยวหน้าหนาว...ต้องห้ามพลาด" ใน อำเภอ ปาย จังหวัด แม่ฮ่องสอน ที่รับประกันว่าถูกใจคนรักท้องไร่ ท้องนา ทะเลหมอก และขุนเขา อย่างแน่นอนค่ะ   

ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ 

มากันที่แรกกับก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ ที่การันตีด้วยความสวยงามข้าวของเครื่องใช้ทิวเขาน้อยใหญ่ ที่ใครผ่านไป ผ่านมาแถว ปางมะผ้า ต้องแวะมาทานก๋วยเตี๋ยวและถ่ายภาพตอนกำลังนั่งติดขา... ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวของขุนเขา ที่สุดแสนจะสบายตา เมื่อได้ลงมาเยือน ปางมะผ้าแห่งนี้

การเดินทาง : ผละถนนคนเดิน มุ่งหน้าเข้าสู่เส้นทางหลัก 1095 มุ่งหน้าจรแม่ฮ่องสอน ระยะทางประมาณ 62  กิโลเมตร เปลืองเวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที

สะพานบุญโขกู้โส่ 

อีกหนึ่งไฮไลท์...ที่ไม่ควรพลาดณ อำเภอ ปาย แม่ฮ่องสอน คือการได้มาเยือน "สะพานบุญ" หรือ "สะพานไม้โขกู้โส่" ที่พระ เณร ชาวบ้านในหมู่บ้านแพมบก และผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมใจ คลุกกายก่อสร้างกันขึ้นมา

โดยมีระยะทางกว่า 800 เมตร ตัวสะพานถูกสร้างทอดยาวผ่านกลางท้องนาอันเขียวขจีเครื่องใช้หมู่บ้านแพมบก และสดชื่นเป็นอย่างมาก เมื่อได้มาเยือนในช่วงที่มีสายฝนพรำ และถ้าไปถูกเวลาก็จะมีโอกาสคว้าเป็นทะเลหมอกบางๆ แผ่นดินลัดเลาะผ่านขุนเขาอีกด้วยซ้ำ

การเดินทาง : จากถนนสมาชิกเดิน มุ่งหน้าเข้าสู่เส้นทางหลัก 1095 มุ่งหน้าไปเชียงใหม่ เจอสามแยกบ้านแพมบก เลี้ยวขวาเข้าบ้านแพมบก ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ชำระคืนเวลาเดินทางประมาณ 25 นาที

น้ำพุร้อนธรรมชาติไทรงาม 

น้ำพุร้อนไทรงาม หรือ The Pai Secret Hot Springs ชื่อที่คนท้องถิ่น หรือนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเรียกกัน... 

ณ จุดนี้ นักท่องเที่ยวกับชาวเขา นิยมแวะมาสู่แช่น้ำร้อน พร้อมกับพาลูกหลานมาอาบน้ำ ทีบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้กันเป็นประจำ ซึ่งแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก.. แต่ก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยว อำเภอปาย มิใช่น้อย 

การเดินทาง :  เคลื่อนถนนคนเดิน มุ่งหน้าเข้าสู่เส้นแบบหลัก 1095 มุ่งหน้าจากไปแม่ฮ่องสอน ระยะทางประมาณ 16  กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30  นาที ค่าผ่านประตู 20 บาท/คน
กองแลน  

ถ้านึกถึงแกรนด์แคนยอน เมืองปาย ต้องนึกถึง กองแลน มาริเป็นอันดับหนึ่ง เพราะว่ากองแลนแห่งนี้ ถูกยกให้เป็นปายแคนยอน แห่งแม่ฮ่องสอน

ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเหวลึก ผาสูง และถูกน้ำฝนพร้อมกับสายลมกัดเซาะมาเป็นเวลานาน จึงทำให้ดินของภูเขาถูกกัดกร่อนจนกลายเป็นแกรนด์แคนยอนขนาดย่อมๆ ซึ่งสถานที่ที่แห่งนี้จัดหามารับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ชอบความท้าทายแวะเข้ามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

คำเตือน : นักท่องเที่ยวตำแหน่งเข้ามาเยี่ยมชมต้องใช้ความระมัดระวังวิธาสูงในการเดินเที่ยวชมหรือถ่ายภาพในบริเวณกองแลนแห่งนี้ เพราะอาจเกิดอันตรายจากการลื่น หรือพลัดตกจากที่สูงได้

การเดินทาง : จากถนนสัตว์เดิน มุ่งหน้าเข้าสู่เส้นถนนหลัก 1095 มุ่งหน้าไปเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 7  กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

ทะเลหมอกหยุนไหล 

มาเที่ยวเมืองปาย แต่ไม่ได้มาทะเลหมอกหยุนไหล ก็เหมือนจะมาไม่ถึง เพราะที่ปายแห่งนี้ถูกขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสามหมอก 

ไม่ว่าจะมาฤดูไหน หรือถ้าโชคดีก็จะได้เจอทะเลหมอก...กันแทบจะทุกครั้งที่ได้ไปเยือน

ยิ่งถ้ามาหน้าหนาวจบด้วย บรรยากาศก็จะฟินมากหมายความว่าพิเศษ เพราะนอกจากจะได้รับชมทะเลหมอกงามๆ แล้ว ยังจะได้สัมผัสอากาศหนาว ที่อาจเรียกได้ว่าหนาวสุดขั้ว จนแทบอยากจะก่อกองไฟหาไออุ่นซึ่งกันและกันเลยทีเดียว

การเดินทาง : ไปถนนคนเดิน หมายมั่นหน้าไปหมู่บ้านจีนสันติชล ระยะทางประมาณ 5  กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15  นาที ค่าเข้าชมคนละ 20 บาท ช่วง High Season ต้องใช้บริการรถเครื่องใช้หมู่บ้านขึ้นไป ค่ารถไป-กลับ 200-300 บาท ต่อคัน หารกับคนอื่นๆ ได้

น้ำตกแพมบก

อีกหนึ่งไฮไลท์ของความสวยงาม ที่น้อยคนนักจะรู้ว่าอำเภอปาย ก็มีน้ำตกสวยๆ นะ  น้ำตกแพมบกแห่งนี้ นับถือเป็นน้ำตกขนาดกลาง...ที่ระหว่างทางเข้าไปจะออกแนวผจญภัยกันเล็กน้อย ด้วยการเดินรุ่งโรจน์เขานิดหน่อย แต่ไม่เหนื่อยมาก

ก็จะพบกับน้ำตกแพมบก ที่ทิ้งตัวลงมาจากหน้าผาสูง...และจะมีแอ่งน้ำเล็กๆ ที่สามารถลงเล่นน้ำได้  

การเดินทาง : จากถนนคนเดิน มุ่งหน้าเข้าสู่เส้นทางหลัก 1095 มุ่งหน้าไปเชียงใหม่ เจอสามแยกบ้านแพมบก เลี้ยวขวาเข้าบ้านแพมบก ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที

ร้านอาหารจีนยูนนาน หมู่บ้านสันติชล 

มาเที่ยวหมู่บ้านสันติชล...ก็ต้องมากินขาหมูยูนนาน มากินขาหมูยูนนาน..ก็ต้องไม่พลาดเดินเที่ยวชมในหมู่บ้านสันติชล เพราะสถานที่ 2 แห่งนี้ อยู่ในบริเวณเดียวกัน

 

และมีความสวยงามตามท้องเรื่อง เหมือนอยู่ในหนังจีนยังไง อย่างนั้น โดยในร้านอาหารจีนยูนนานจะมีเมนูแนะนำอย่างเช่น ขาหมูยูนนาน กับ หมั่นโถวทอด ซึ่งถ้าใครได้มีโอกาสได้มาร้านอาหารแห่งนี้ ก็มักจะสั่งเมนูนี้กันแทบทุกโต๊ะ 

ส่วนในหมู่บ้านสันติชล ก็ถูกสร้างได้อย่างอลังการดาวล้านดวง โดยมีไฮไลท์ที่ชิงช้าไม้..ที่ใครมาก็ต้องทดลองเล่นกันสักครั้ง ถ้าใครเล่นเบื่อแล้ว ก็ลองแวะเดินชมรอบๆ ก็มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ หลายมุมอยู่

การเดินทาง :  จากถนนคนเดิน มุ่งหน้าไปหมู่บ้านจีนสันติชล ระยะทางประมาณ 4  กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

โป่งน้ำร้อนท่าปาย 

อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า โป่งน้ำร้อนท่าปาย กับ น้ำพุร้อนไทรงาม เป็นที่เดียวกัน...เพราะมันคือคนละสถานที่กันจ้ะ และอุณหภูมิก็แตกต่างกัน

 

เพราะในโป่งน้ำร้อนท่าปาย มีอุณหภูมิน้ำที่ร้อนกว่า ร้อนจนต้มไข่แบบออนเซนได้.. โดยจะมีบ่อที่ไว้ต้มไข่ต่างหาก

 

โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อไข่ไก่ดิบได้จากที่นี่ เค้าก็จะใส่ชะลอมไว้ให้ ส่วนใครไม่อยากต้มไข่ก็ไปแช่น้ำอุ่น แช่เท้าได้ ตามบ่อที่เค้ากำหนดให้.. อย่าเผลอลงผิดบ่อเด็ดขาด

การเดินทาง : จากถนนคนเดิน มุ่งหน้าไปหมู่บ้านแม่ฮี้-ท่าปาย ระยะทางประมาณ 9  กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที ค่าเข้าคนไทย 50 บาท ต่างชาติ 300 บาท

ทุ่งนาหน้าวัดทรายขาว 

ใครที่ชอบบรรยากาศของทุ่งนาเขียวๆ และมีแรงพอที่จะปั่นจักรยานขึ้นลงเนินเขาได้ เราแนะนำให้ปั่นจักรยานเที่ยวรอบเมืองปายกันค่ะ 

เพราะเราสามารถปั่นลัดเลาะไปยังทุ่งนา หน้าวัดทรายขาวได้ บรรยากาศค่อนข้างๆ ชิลๆ เงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบวิถีสโลว์ไลฟ์กันมากๆ 

การเดินทาง : จากถนนคนเดิน มุ่งหน้าไปหมู่บ้านแม่ฮี้-ทรายขาว ระยะมุขประมาณ 3.3  กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

สำหรับใครที่กำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหน้าหนาวที่กำลังจะมาเยือน ก็อย่าลืมลิสต์ อำเภอ ปาย แม่ฮ่องสอน ไว้ในอ้อมใจอีกสักแห่ง... เพราะที่นี่มันต่อดีใจของคนรักธรรมชาติและความสงบอย่างแท้จริงจ้ะ
 
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://travel.sanook.com/1400909/
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน