วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

น้องก็อต ทีทัช หนุ่มป่วยโรคกระดูกทำลายตัวเอง เสียชีวิตแล้ว

น้องก็อต ทีทัช หนุ่มป่วยโรคกระดูกทำลายตัวเอง เสียชีวิตแล้ว

น้องก็อต ทีทัช หนุ่มป่วยโรคกระดูกทำลายตัวเอง เสียชีวิตแล้ว

น้องก็อต ทีทัช หนุ่มป่วยโรคกระดูกทำลายตัวเอง เสียชีวิตลงแล้ว หลังพักรักษาตัวเป็นเวลานาน วู้ดดี้-ชาวเน็ต ร่วมไว้อาลัยถึง

(17 ก.ย.) กลายเป็นข่าวสุดสะเทือนใจในช่วงเช้าวันนี้ เมื่อพิธีกรหนุ่มชื่อดัง วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ได้ประกาศแจ้งข่าวสุดเศร้าของ น้องก็อต ทีทัช อายุ 22 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคโรคกอร์แฮมดีซีส หรือไม่ก็ ภาวะกระดูกสลาย จัดหามาเสียชีวิตลงอย่างสงบแล้ว พระขนองต่อสู้กับโรคนี้มาระยะหนึ่ง

วู้ดดี้ วุฒิธร ได้แจ้งข่าวผ่านทางเฟซบุ๊กว่า น้องก็อต ทีทัช ได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังจากที่เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางทีมงานได้เข้าไปเยี่ยมน้องอีกครั้ง เพราะคุณแม่แจ้งว่าอาการของน้องค่อนข้างทรุดหนักลง วู้ดดี้ยังบอกว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้กระซิบบอกน้องว่า "เกินมาเพื่อเป็นพลังและแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คน"

ทีมงานแจ้งว่า น้องก็อต ได้พลัดไปอย่างสงบเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมกับขอบคุณที่สอนให้เรารู้ว่าเราทุกคนต้องรู้ว่าเราเกิดมาเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในทางของเรา ข้อความย่อยนี้สำคัญสุดคือคุณแม่ของน้องก็อต ขอส่งกำลังใจและพลังให้คุณแม่และครอบครัวน้องก็อตที่จะเดินหน้าต่ออย่างมีพลังและภาคภูมิใจว่าลูกแม่เป็นครูให้หลายเชื่อมหลายสัตว์

ทั้งนี้ หลังจากข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้คนจำนวนสุดกำลังเข้ามาร่วมไว้อาลัยถึง น้องก็อต พร้อมกับเป็นกำลังใจให้พร้อมทั้งครอบครัวของน้องก็อตด้วย

สำหรับเรื่องราวของ น้องก็อต ทีทัช เคยออกอาการผ่านรายการ วู้ดดี้ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะเทปดังกล่าวมี ตูน บอดี้สแลม และ ก้อย รัชวิน ได้เดินทางไปเยี่ยมน้องก็อตที่โรงพยาบาลด้วย น้องก็อต ป่วยเป็นโรคโรคกอร์แฮมดีซีส หรือ ภาวะกระดูกสลาย มีเพียง 200 กว่ามนุษย์ที่ป่วยโรคนี้เพราะว่าไม่ทราบสาเหตุ

ก่อนที่จะทราบว่าป่วยเป็นโรคนี้ น้องก็อต หมายความว่าคนสุขภาพดี แข็งแรงสมบูรณ์ นฤมิตงานส่งตัวเองเรียนและหาเลี้ยงครอบครัวอย่างมุ่งมั่น ทำรายได้เดือนละมีชีวิตแสนๆ เพราะคดีขยันของตัวเอง แต่โรคดังทำนูลทำให้ชีวิตทุกอย่างพลิกผัน

ครอบครัวต้องปิดกิจการร้านขายยและขายบ้าน เพื่อนำมาเป็นค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง ทำให้เรื่องราวของน้องก็อตกลายเป็นประเด็นในโซเชียลมีเดีย

ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Woody

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น